(July 24, 2014)-HOBOKEN, NJ- มีผลการศึกษาใหม่ได้ถูกตีพิพม์ในวารสาร Minerva Medica ฉบับเดือนมิถุนายนว่า การรับประทาน Pycnogenol® ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ได้จากเปลือกของต้นสนฝรั่งเศส ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในหูชั้นในดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ Pycnogenol® เป็นทางเลือกที่เป็นสารจากธรรมชาติสำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เช่น อาการเวียนศีรษะ มีเสียงในหู การสูญเสียการได้ยิน ความดันในหู และ การสูญเสียการทรงตัว ซึ่งอาการเรื้อรังเหล่านี้มีผลต่อการดำเนินชีวิต การทำงาน มีโอกาสล้ม และนำไปสู่ความเครียด นักวิจัยพบว่าเกือบ 90% ของผู้ป่วย ไม่มีอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ภายใน 6 เดือนหลังจากรับประทาน Pycnogenol®
คุณหมอ Steven Lamm แพทย์และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกล่าวว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 50 ล้านคน ต้องเผชิญกับอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน และการมีเสียงในหู และเนื่องจากอาการของโรคจะแตกต่างกันไป โรคนี้จึงยากต่อการตรวจรักษา และจากผลการวิจัยก่อนหน้านี้ได้พบว่า Pycnogenol® เป็นสารธรรมชาติที่ปลอดภัยและเป็นตัวเลือกสำคัญในการช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ในระยะเวลาอันสั้น
การศึกษานี้ได้ทำที่ มหาวิทยาลัย Chieti-Pescara ประเทศอิตาลี นักวิจัยได้ทำการรักษาและตรวจติดตามผู้ป่วย 107 ราย อายุระหว่าง 35-55 ปี โดยคนเหล่านี้ได้ตรวจพบว่ามีอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากันและมีอาการเสียงในหู โดยผู้ป่วยทุกรายได้ผ่านการรักษาโดยวิธีที่ดีที่สุด ( Best Available Management, BM) ซึ่งรวมถึงการใช้ยาในกลุ่ม Anticholinergics, Benzodiazepines, Antihistamines, Corticosteroids, การรับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำ และการหลีกเลี่ยงการรับประทานคาเฟอีน แอลกอฮอลล์ และสิ่งกระตุ้นอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาแบบ BM แล้ว ในกลุ่มที่ได้รับ Pycnogenol® ผู้ป่วยจะได้รับ Pycnogenol® 150 มก./ วัน
ผลการทดลองจะถูกบันทึกจากการสังเกตอาการ และรายงานระดับของอาการ เช่น การมีเสียงในหู ความรู้สึกในการมีความดัน และ ภาวะสูญเสียการประสานกันของท่าเดิน
อัตราความเร็วของการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นในจะถูกตรวจวัดด้วยเครื่อง high-resolution, linear imaging probe ในวันเริ่มแรกของการตรวจ ความเร็วของการไหลเวียนเลือดของหูที่มีปัญหาจะอยู่ในระดับต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับหูที่มีปัญหาการไหลเวียนของเลือดไปสู่ส่วน cochlear ที่ต่ำมากอยู่แล้ว
ผลการทดลองระบุว่าในกลุ่มที่รับประทาน Pycnogenol® เป็นเวลา 3 เดือนและ 6 เดือนจะมีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่ากลุ่มควบคุม และภายหลังจากการสังเกตเป็นระยะเวลา 6 เดือน เกือบ 90% (87.3%) ของผู้ป่วยที่ได้รับ Pycnogenol® จะไม่แสดงอาการ เมื่อเปรียบเทียบกับ 34% (34.6%) ในกลุ่มควบคุม
ตลอดช่วงของการศึกษา 6 เดือน นักวิจัยพบว่า
- Pycnogenol® ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นในและช่วยลดความดันในหูเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p<0.05)
- Pycnogenol® ช่วยให้อาการของผู้ป่วยที่ได้ยินเสียงในหูมีอาการดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p<0.05 ที่ระยะเวลา 3 เดือนและ 6 เดือน)
- ลดจำนวนวันที่ต้องหยุดงานอันเนื่องมาจากอาการของหูชั้นในเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p<0.05)
Dr. Gianni Belcaro หัวหน้านักวิจัยของการทดลองนี้กล่าวว่า “ผลที่สำคัญของ Pycnogenol® ในเรื่องของการปรับการไหลเวียนของเลือดนั้น ทำให้ Pycnogenol® เป็นสารที่ปลอดภัยและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการบรรเทาอาการจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน รวมถึงการมีเสียงในหู และเนื่องจาก Pycnogenol® ช่วยในเรื่องลดการอักเสบและมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ สารสกัดชนิดนี้จึงน่าจะช่วยป้องกันการเริ่มต้นของอาการมีเสียงในหูได้”
การศึกษานี้ช่วยยืนยันว่าการค้นพบก่อนหน้าเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องการมีเสียงในหูและโรคเกี่ยวกับหูชั้นใน รวมถึง การศึกษาในปี 2010 ที่พบว่า Pycnogenol® เป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการของการมีเสียงในหูอย่างมีนัยสำคัญ โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน
หากต้องการดูรายละเอียดของงานวิจัยและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pycnogenol® ได้ที่ www.pycnogenol.com
เรื่องราวเกี่ยวกับ Pycnogenol®
Pycnogenol® เป็นสารสกัดจากพืชธรรมชาติจากเปลือกของต้นสนมาริไทม์ ซึ่งปลูกตามชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีการค้นพบว่า Pycnogenol® มีส่วนผสมในสัดส่วนเฉพาะของสารสำคัญในกลุ่มสารโปรไซยานิดิน(Procyanidins), สารไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoids) and กรดอินทรีย์หลายชนิด ซึ่งสัดส่วนที่เฉพาะนี้ทำให้สารสกัดจากเปลือกสนมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสนี้มีการศึกษามานานกว่า 40 ปี มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์มากกว่า 340 ฉบับ และมีบทความมากมายที่ยืนยันในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของตัววัตถุดิบ Pycnogenol®
ปัจจุบันนี้ Pycnogenol® ได้ถูกพัฒนาอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า 700 ชนิดทั่วโลก หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.pycnogenol.com